Powered By Blogger

วันเสาร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2559

กลอนผญา บุญผะเหวด เดือนสี่ (โดย อีเกียแดง แห่งรัตติกาล)






พี่น้องเอ๋ย ขอยอยกถกเค้า วิถีเก่าแต่คราวหลัง
หลายคนยังหล่ะยึดถือ ได้จื่อเห็นเป็นคำอ้าง
วิถีทางบ่ต่างเค้า ได้ฮวมเอาศรัทธาแกร่ง
ดั่งแสงธรรมได้นำแจ้ง แปงทางฮู้สู่ค่าควร


หญิงและชายต่างหมายล้วน ได้หวนก่อน้องานบุญ
เดือนสี่หมุนหล่ะอ่วยมา ศรัทธาไทยต่างไหลน้อม
พะยอมหอมกลิ่นเค้า เจ้ามันปลากะว่ากรุ่น
ผะเหวดบุญคือทุนเอื้อ ได้เฟือส่าง(สร้าง)หย่างต่อฮอย


พี่น้องเอ๊ย ประวัติดีมีบ่น้อย บ่อาจปล่อยให้ลอยสูญ
ขอจับจูนค่าคำ ให้นำเห็นเป็นทางเค้า
ส่องเห็นเงาผู้เอาฤษก เบิกแนวทางให้สางก่อ
เอาแค่พอให้ฮู้..ยกนามซูเอ่ยอ้าง ให้ทางเจ้าได้เลายิน


โอน้อ พระมาลัยผู้ไกลสิ้น กิเลสปิ่นหล่ะทางจร
นามกรขจรไกล  ดังอยู่ในพงศ์เซื้อ
ฤทธาเหลือจนเฟือล้น เหาะเดินวนจนคนส่า 
สวรรค์ดาวอยู่ฮาวฟ้า เทวาซร้องหล่ะพ่องชม


จุฬามณีกะบ่ม้ม ได้ชมต่อน้อเมืองบน
ดั่งว่าผลค่าธรรม ได้ส่องนำจนเห็นแจ้ง
ประดุจแสงที่แยงซี้ ชุลีกรได้น้อมต่อ
ดั่งแสงธรรมให้นำพ้อ น้อดวงแก้วค่างาม


พระศรีอารย์คือนามท่าน ผู้ผันถ่ายในภายกาล
สืบความงามทางใจ ให้ฮุ่งใสเทียมแก้ว
สิต่อแนวโคดมท่าน ขันใจรวมให้กวมแกร่ง
ไผอยากแยงฮ่วมแปงปั้น ให้หมั่นส่าง(สร้าง)ทางหย่างควร


สู่ความดีที่งามล้วน ในมวลแก่นทางใจ
หากว่าไผได้เฮ็ดนำ ผลกระทำย่อมเห็นแจ้ง
ยกแสดงแจ้งสามข่อ(ข้อ) ต่อทางมาลัยท่าน
ให้จือจำหล่ะนำมั่น สิผันพ้อหล่ะต่อทาง 


(ข้อหนึ่ง) โอน้อ คุณมารดาว่าเลิศล้ำ บิดาส่ำเทียมเถิง
ให้เจ้าเทินค่าสูง ผดุงงามคือเว้า
(ข้อสอง) อีกทั้งพุทธองค์เจ้า น้อมเอาคุณให้หนุนซ่อย
หล่ะอย่าสะคอยยุเย้า ให้สงฆ์เจ้าสิ้นเหล่าควร


(ข้อสาม )ประพฤติธรรมนำซ้วน ให้ควรค่าว่าทางใจ
ผะเหวดในชาดก ถืกยกเอาเล่ามาอ้าง
ให้เสริมทางให้สานคล้อง จ่องแนวใจอย่าไกลเก่า
สิได้พบเมตไตรยเจ้า ในคราวหน่า(หน้า)บัดห่าลุน พุ้นแหล๊ว


พี่น้องเอ๋ย เป็นประวัติแต่ภายพุ้น ที่หนุนส่องจนมองเห็น
จนสืบเป็นค่าฮอย ที่คอยเพียรให้เวียนน้อม
ดอกพะยอมหอมกลิ่นอ้าง กะเถิงทางหว่างเดือนสี่
ผะเหวดบุญหนุนคราวนี่ คนปรี่ร่วมว่าฮ่วมงาน ซั้นแหล๊วครับ


เตรียมสถานให้งามพร้อม พระซ้อมอ่านมาลัยแสน
ธรรมาสน์แขวนสายโยง ผูกธงทิวจนปลิวว่อน
ทั้งกัณฑ์หลอนกะเตรียมเอ้ สนุกเฮฮ้องหม่วน
ผะเหวดลายงามล้วน สมควรค่าหล่ะว่ายิล


สิบสามกัณฑ์ทั้งเหมิดสิ้น เสียงยินส่งยังคงดัง
แห่ตามหลังดั่งสู่เมือง ตามเรื่องราวแต่คราวกี้
นางมัทรีมีสมส่าง(สร้าง) ชูชกพราหมณ์กะตามต่อ
อีกกัณหาชาลีจ้อ ถืกพราหมณ์ล่อยอสู่เมือง


โอน้อ สมมุติทำหล่ะนำเรื่อง ประเทืองค่าจนพาเห็น
ศีล-ทานเป็นเช่นผลควร ให้หวนตรองดั่งคองเค้า
ฟังธรรมเอาหล่ะใจตั้ง อีกศีล-ทานกะตางต่อ
อย่างละพันสรรหาพ้อ มายอไว่หล่ะใส่งาน


มาลางามดอกบานแย้ม กะแต้มต่อน้องานบุญ
ธูปเทียนหนุนเป็นบุญงาม กะเอาตามดั่งเคยเว้า
อีกทั้งเข่า(ข้าว)เหนียวปั้น กะขันเอาเล่าพันท่อ
มายกยอหล่ะห่อปั้น มาขันร่วมให้ฮ่วมมี


พี่น้องเอ๊ย ขออ่วยลงหล่ะตรงนี่ วิถีเรื่องให้เนืองตรอง
ฮักษาคองแต่ก่อนหลัง ให้สืบสานหล่ะคงไว้
อีสานไทยสืบสายร่วม ฮ่วมสัมพันธ์บ่หันปล่อย
ยังกรุ่นฮอยคอยเห็นเค้า..อีเกียแดงยังแจงเว้า..เอามาอ้างบ่ต่างเคย อยู่เด้ครับ

น้อมจิตคารวะ
อีเกียแดง แห่งรัตติกาล

ขอบพระคุณรูปภาพบุญผะเหวดจังหวัดบุรีรัมย์ครับผม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น