Powered By Blogger

วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ผญาเศร้าเหงาหวาน 10 (โดย อีเกียแดง แห่งรัตติกาล)



ดอกจานบานหล่ะขานแย้ม แต้มถิ่นนาดอน
สีแดงซอนเจ้าอ่อนไหว บัดลมไกวในภายพื้น
ผ่านวันคืนยังยืนหมั่น ตะวันแยงบ่แหนงหน่าย
อวดกลีบกายหมายชูช่อ ทอแย้ม..แต้มค่างาม
โอน้อ เมืองอีสานคงงามล้ำ หากย้ำต่อน้อทางศิลป์
เสียงพิณดังยังฟังหวาน ผ่านเสียงแคนสายแนนเกี้ยว
ดอกจานเทียวบานแย้ม แกมถิ่นงามบ่ฮ้างฝ่อ
วัฒนธรรมคงนำพ้อ ถักทอแย้มแต้มกลิ่นฮอย
ฉาบด้วยฝนห่าน้อย ตกพลอยซุ่มทุ่งนาดอน
สุดสะออนออนซอนใจ ศิวิไลน์ในผืนหล้า
ประดุจมนตราแต้ม ไผเผลอแยงปานแต้มพิศ
"ประจักษ์จิต" ดั่งนิมิตฝันอ้าง ความงามเจ้าเล่าบ่เลือน แท้แหล๊ว
ขอบคุณภาพงามๆครับ
บทผญา อีเกียแดง แห่งรัตติกาล
๒๙ มกราคม ๒๕๖๐




พี่น้องเอ๋ย อรุณสางสว่างแจ้ง แสงทองส่องขึ้นมองสวย
สายลมกวยไพรผืน กะซืนงามตามล่อ
เสียงพิณซอดังอ๋ออ้อน ซ้อนสายลมที่โน้มเหนี่ยว
แคนกะเทียวดังพ้อม น้อมลมอ้างทางถิ่นเฮา พุ้นแหล๊ว
ฝนตกแซมแต้มถิ่นเค้า เหง่าบักม่วงช่อพวงดก
หล่ะ! นกจับคอนอ้อนคำขาน ดอกจานงามตามแสงต้อง
กระโดนซอนอ้อนลมน้าว เจ้าพวมบานทางดอนถิ่น
ฝนตกรินกลิ่นหอมเอื้อ เฟือต้องเจ้าหล่องลอย
" อยู่ข้างเถียง " ได้ยินเสียงงัวน้อย มาหลอยหย่ำนำหมาย
หญ้าเกิดในภายผืน กะซืนชมว่าสมแล้ว พะนะ
นี่หล่ะแนวไทบ้าน อีสานเฮาเล่ามากค่า
หอมกลิ่นนาหล่ะว่าแย้ม ดอกติ้วแซมถิ่นอ้าง อีสานเค้าเล่าแหม่นงาม แท้แหล๊วครับ
...........................................................................
ทักทายอรุณสวัสดิ์พ้อมกับสายลมพัดเบาๆเคล้าเสียงแคน ยากนำเลี้ยงงัวน้อย สวอยนำเลี้ยงงัวใหญ่ไล่ไปกะมีแต่ข่องงัวกะดาย โตหนึ่งข่องหง่ามอญ โตสองข่องหง่าขาม โตสามข่องหง่าหมี่ โตสี่ข่องหง่าหว่า โตห้าข่องหง่าบก โตหกข่องหง่าแต้ เอาหล่ะแม๊ะ..วินอึฮึ๊
นี่หล่ะชีวิตคนมันสับสนวนวุ่นหมุ่นเอ้เล่ กะว่ากันไปเนาะ
ภาพบทผญา อีเกียแดง แห่งรัตติกาล
๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐



โอน้อ เฮาเกิดมาว่าอยู่ยั้ง บ่สมดั่งมโนหมาย
เทิงหมองกายเทิงหน่ายจิต บ้างคิดวนสับสนท้อ
กะจั่งพอหล่ะน้อเอิ้น เกริ่นว่าคนนั่นสมแหม่น
หาคำแทนบ่อาจได้ กะคงไว้ได้ซื่อนาม นี่แหล๊ว
คนทั้งหลาย กะจั่งหมายว่าอ้าง ตามอย่างหล่ะคำขาน
นี่กะพาลนั่นกะหมอง บ่ค่องงามให้ตามเตื้อง
สุขนั่นเพียงแค่น้อย พอเห็นฮอยคอยยิ้มอยู่
มากหลายหมู่บ้างกู่ฮ้อง ตามคองเค้าหมู่เหล่าคน
โอยน้อ ดั่งสายชลฝนเค้า เม้าดินด่างจากทางผา พุ้นแหล๊ว
ไหลลงมาว่าสีแดง แผลงฤทธิ์วนเป็นฝนฮ้าย
กระแสสายหมายทางเบื้อง เหมือนอสูรมุ่งมาดค่า
ทำลายผาป่าไม้ ไหลโฮมท้อนเป็นบ่อนวัง
พี่น้องเอ๊ย มีสติ กะให้คิดว่ายั้ง ลองหันส่องคงมองเห็น
สิ่งได๋เวรเช่นได๋เหมาะ เป็นเกราะนำหรือกรรมล่อ
กะคงพอน้อดีบ้าง อยู่ทางในคงใสแน
อย่าเป็นคนหล่ะคักแท้ บ่ลองแปรหล่ะเปลี่ยนบ้าง เทือเขาอ้างมนุษย์ชน นี่แหล๊วครับ
...................................................................
เกิดเป็นคนกะสับสนวนฮ้ายจั่งซี้หล่ะ หมุ่นเอ้เล่ครับ คำนับงามๆตามทักทายพี่น้องผองเจ้าเหล่าคนเด้อ ขอบคุณภาพประกอบนำครับ
บทผญา อีเกียแดง แห่งรัตติกาล
๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น